Thursday, 21 June 2018
Dollar Cost Averaging (DCA)
« ช่วงชุลมุนและปรับคาดการณ์ | MainDollar Cost Averaging ( DCA )
แม้ว่าการลงทุนในหุ้นนั้นจะมีค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่าสินทรัพย์การลงทุนหลายๆอย่าง แต่ก็มีผู้ลงทุนจำนวนมากที่ประสบปัญหาขาดทุน อันเนื่องมาจากสาเหตุหลายลักษณะ อาทิ การกะเก็งจังหวะเข้าซื้อผิดจึงได้หุ้นในราคาแพง การเลือกหุ้นที่ผิดพลาดกลายเป็นหุ้นที่ราคาตกต่ำลงหลังจากซื้อไปแล้ว
มีผลการวิจัยในต่างประเทศหลายชิ้นที่ได้ข้อสรุปว่า ผู้ที่พยายามกะเก็งจังหวะเข้าลงหุ้น โดยเฉลี่ยแล้วกลับไม่สามารถชนะค่าเฉลี่ยของดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ได้ หลายๆเหตุการณ์ผู้ลงทุนมั่นใจสูงสุดในการทุ่มซื้อ จะเป็นช่วงที่ราคาหุ้นสูงมาก เนื่องจากมีข่าวดีท่วมตลาด จุดสูงสุดของปีนั้นอาจสูงกว่าจุดต่ำสุดของปีหลายสิบเปอร์เซ็นต์ทีเดียว
นอกจากนั้น การเลือกหุ้นเน้นๆเพียงตัวเดียวก็มีโอกาสคาดการณ์ผิดพลาดได้อย่างมากมาย จึงเป็นที่มาของคำสอนที่ว่า อย่าใส่ไข่ทั้งหมดในตะกร้าใบเดียว
ดังนั้น การปิดจุดอ่อนของการเลือกจังหวะลงทุน และการเลือกเน้นหุ้นเพียงตัวเดียวจึงช่วยปิดโอกาสโชคร้ายสูงสุด ซึ่งแม้จะลดโอกาสโชคดีสูงสุดไปด้วย แต่ดูเหมือนน่าจะเป็นแนวทางที่คุ้มค่า
ทั้งนี้ โดยค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นระยะยาวนั้น อยู่ในระดับประมาณ 10-12 % ต่อปี ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากพอที่จะทำให้ผู้ลงทุนมีความพึงพอใจ
การลงทุนแบบ Dollar Cost Averaging ( DCA )
เป็นเทคนิคง่ายๆที่ทรงประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการเลือกจังหวะผิด โดยใช้วิธีทยอยแบ่งการซื้อเป็นหลายงวดต่อเนื่อง เช่น ลงทุนทุกๆเดือน ในจำนวนเงินงวดละเท่าๆกัน เมื่อเราลงทุนแบบ DCA เป็นรายเดือน เราก็จะมีราคาต้นทุนอยู่ 12 ครั้ง ใน 1 ปี ซึ่งเมื่อถัวเฉลี่ยทั้งปี ก็จะมีค่าอยู่ในโซนกลางๆ ของช่วงราคาของปีนั้น
ถัดจากการแบ่งเงินเข้าซื้อแบบ DCA ก็เป็นคำถามว่า เลือกซื้อหุ้นอะไรดี สมาคมนักวิเคราะห์ฯ มีคำแนะนำหลักการสำหรับเลือกหุ้นลงทุนในแนว DCA ดังนี้
1. ควรเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานทางธุรกิจดีและมีความแข็งแรงทางการเงิน เพื่อให้มั่นใจในความต่อเนื่องของธุรกิจที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ลงทุน โดยผู้ลงทุนสามารถเข้าดูผลการวิเคราะห์หุ้นทางปัจจัยพื้นฐาน ได้ที่ IAA Consensus ซึ่งอยู่ในเว็บไซต์ของสมาคมนักวิเคราะห์ฯ www.iaa.or.th และ www.settrade.com
2. ควรกระจายการลงทุนออกในหลายหุ้น ที่อยู่ในหลายหมวดธุรกิจ เพื่อลดความเสี่ยงที่ธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งประสบปัญหา จำนวนหุ้นไม่ควรน้อยเกินไปจนกระจุกตัวในธุรกิจประเภทเดียว แต่ก็ไม่ควรมากจนติดตามข่าวสารไม่ทัน จำนวนเฉลี่ยที่เหมาะสมน่าจะอยู่ในช่วง 5-6 บริษัท (และ 5-6 ประเภทธุรกิจ)
3. หุ้นที่เหมาะสมในการเลือกลงทุนแบบ DCA ซึ่งมีจุดประสงค์ลดความเสี่ยงและต้องการได้ผลตอบแทนที่ดีพอๆ กับค่าเฉลี่ยของตลาด มีหลักเกณฑ์ที่ IAA ให้คำแนะนำมีดังนี้
- เป็นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้และผลกำไรสุทธิ พิสูจน์ได้จากงบการเงินที่ผ่านมาช่วง 5 ปี และควรมีผลวิเคราะห์ไปในอนาคตจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเภทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
- ควรมี Market Capitalization และมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยสูงพอสมควร เพื่อให้สามารถรองรับการเข้าซื้อลงทุน โดยไม่กระทบให้ราคาวิ่งขึ้นแพงเกินไป นอกจากนั้น กิจการที่มีขนาดใหญ่กว่ามักเป็นกิจการที่ฟันฝ่าอุปสรรคมานานจนมีความมั่นคงกว่ากิจการขนาดเล็กที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นไม่นาน ความหมายนี้ก็คือ บริษัทที่ใหญ่มีความเสี่ยงน้อยกว่านั่นเอง
- หากพิจารณาจากผลการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐาน จะพบว่านักวิเคราะห์ให้มูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาหุ้นในตลาด (มี upside) และมีคำแนะนำให้ซื้อ
- ตัวอย่างหุ้นที่สมาคมนักวิเคราะห์ฯ ได้รวบรวมผลการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์การลงทุนไว้ใน IAA Consensus
ผู้สนใจเพิ่มเติมสามารถ QR code ข้างล่าง เพื่อเข้าสู่ IAA Consensus หรือเข้า www.iaa.or.th)
โดย คุณสมบัติ นราวุฒิชัย
เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการ
สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA)
[Trackback URL for this entry]