Friday, 22 March 2013
ไซปรัส...ซัดหุ้นป่วน
« 169 หุ้นใน SAA Consensus | Main | โอกาสทอง...จริงหรือ »2-3 วันที่ผ่านมา ชื่อของประเทศไซปรัส ก็โด่งดังอย่างรวดเร็วในแวดวงนักลงทุนไทย แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ด้วยความเป็น 1 ในสมาชิกของยูโรโซน ที่สำคัญคือ ไซปรัสกำลังต้องการความช่วยเหลือทางการเงินจากสภาพยุโรป (อียู)
ตามข่าวบอกว่า ตัวเลขที่เจรจาขอกู้จากสหภาพยุโรปนั้นอยู่ที่ 1 หมื่นล้านยูโร ซึ่งไซปรัสถูกตั้งเงื่อนไขให้ไปดำเนินการเก็บเงินภาษีจากบรรดาผู้ฝากเงินในไซปรัส โดยมีมติมาจากรัฐมตรีคลังยูโรโซนเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา
ผลที่ตามมาคือ ชาวไซปรัสแห่กันกระหน่ำถอนเงินจนหมดตู้เอทีเอ็ม จนธนาคารต้องหยุดการบริการ แน่นอนว่าบรรดาประชาชนผู้ฝากเงินส่งเสียงคัดค้านกันอื้ออึง
อย่างไรก็ตามอังคารที่ผ่านมา รัฐสภาไซปรัสมีมติคัดค้านข้อเสนอให้เก็บภาษีจากผู้ฝากเงินซึ่งก็น่าจะลดกระแสความไม่พอใจจากประชาชนผู้ฝากเงิน แต่ก็ทำให้อียูยังไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขที่จะให้เงินกู้ได้ เพราะสูตรเดิมๆ ที่จะให้เงินกู้แก่ประเทศที่เข่าอ่อนก็มีการขอให้รัดเข็มขัดตัวเองไปด้วย เพียงแต่กรณีไซปรัสนี้ให้ไปจัดการเก็บภาษีจากเงินฝาก
จนถึงตรงนี้เรื่องราวที่ไซปรัส จึงต้องติดตามต่อไปว่าจะเจรจาต่อรองอะไรกันใหม่ จะเจอกันครึ่งทางตรงไหน หรือจะย้ายเส้นทางจากการเก็บค่าต๋งคนฝากเงิน ไปทำวิธีอื่นแทน
ที่จริงประเทศไซปรัสนั้นมีขนาดเล็กนิดเดียว จีดีพีอยู่ในอันดับที่เกือบ 100 และจีดีพีเล็กกว่าไทยกว่า 10 เท่า นักวิเคราะห์หลายคนจึงมองว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่จะลากเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลกให้ซวนเซไปได้มาก
อย่างไรก็ตาม ผมมีข้อสังเกตว่า บรรดานักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเองก็แอบหวาดเสียวกับตลาดหุ้นไทยอยู่แต่เดิมแล้ว เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยไต่ขึ้นเร็วมากจนถึง 1,600 จุด และที่สำคัญกว่านั้น บรรดาหุ้นเล็กวิ่งทยานขึ้นแรงแซงหุ้นใหญ่ทั้งมูลค่าการหมุนรอบและอัตราการเพิ่มของราคา จนบรรดาผู้เกี่ยวข้องต้องออกมาเตือนให้ระมัดระวังการปรับตัวลงตามมาในภายหลัง ซึ่งก็เป็นธรรมชาติของตลาดหุ้นที่เกิดการปรับตัวเป็นระยะ
ที่จริงการปรับตัวลงจากจุดสูงสุด 1,600 จุดเมื่อเช้าวันอังคาร ไหลพรวดพราดมาที่ 1,540 จุด ในเที่ยงวันพุธ เป็นปรากฎการณ์ที่น่าอธิบายได้ถึงความเปราะบางของระดับราคาหุ้นที่ดัชนีใกล้ 1,600 จุด
นอกเหนือจากปัจจัยปั่นป่วนยูโรโซนจากเรื่องไซปรัสแล้ว นักวิเคราะห์บางท่านก็ยังให้คำอธิบายมุมมองความกังวลอื่นๆ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นร่วงร่วมด้วย เช่น
ระดับดัชนีใกล้ 1,600 จุด ทำให้ P/E ปัจจุบัน ณ งบการเงินปี 55 อยู่ที่ 18.6 เท่า ส่วน P/E ที่ใช้ประมาณการงบปี 56 อยู่ที่ 15-16 เท่า (แล้วแต่สำนัก) ซึ่งทำให้ไม่ดึงดูดความน่าสนใจ และมีหุ้นหลายบริษัทแพงเกินไป ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่ามีของแพงปนๆ อยู่กับของที่ไม่แพง ซึ่งท่านต้องเลือกให้ดี
นอกจากนั้น บางท่านก็อธิบายถึงความน่ากังวลของสถานการณ์บาทแข็งเกินไปจนทะลุ 29.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจกระทบต่อภาคส่งออกและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย รวมทั้งบางคนกลัวมาตรการใหม่ๆ ในการจัดการกับสถานการณ์บาทแข็ง ซึ่งโดยส่วนตัวผมเองไม่คิดว่า แบงค์ชาติและกระทรวงคลังของไทยจะมีมาตรการที่มีผลกระทบด้านลบรุนแรง ถ้าจะมีก็คงเป็นความจำใจขยับดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อลดแรงจูงใจในการที่เงินต่างชาติโหมเข้ามาซื้อพันธบัตรของไทยที่ได้ดอกเบี้ยสูงกว่าเยอะ บวกกับเหตุผลความเสี่ยงด้านภาวะเศรษฐกิจโลกจากความปั่นป่วนในยูโรโซน
ผมคิดว่า การปรับตัวลงอย่างชุลมุนของตลาดเป็นผลจากปัจจัยหลายๆ อย่างข้างต้นปนกันและมองว่าปัจจัยไซปรัสที่เชื่อมโยงไปยังยูโรโซนเป็นเข็มทิศสำคัญที่สุดในช่วงสั้นๆ นี้
ช่วงสั้นๆ ตลาดหุ้นไทยยังผันผวน และมีโอกาสปรับลดลงได้อีกบ้าง เพราะเทียบกับที่วิ่งขึ้นมาก่อนหน้านี้ ก็ไม่ถือว่าการปรับลงแค่ 50 จุดจะมากมายนัก
อย่างไรก็ตาม หุ้นเก็งกำไรขนาดกลางถึงเล็ก ถ้ามี P/E สูงเทียมฟ้า และวิ่งมายาวไกลก่อนหน้านี้ ก็มีความเสี่ยงที่จะปรับลงได้เยอะกว่าหุ้นใหญ่
ส่วนในระยะปานกลางมองไปช่วงกลางถึงปลายปี ผมหวังว่าปัญหาในไซปรัสและยูโรโซนคงจะคลายตัวไปในระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ยังเข้มแข็งจากกำลังซื้อในประเทศบวกกับการลงทุนภาครัฐและการลงทุนของเอกชน ตลาดหุ้นไทยในกลางปีถึงปลายปียังมีความหวัง ซึ่งผมหมายถึงเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่ดี
อยากรู้ว่ามีหุ้นไหนบ้าง สมาคมนักวิเคราะห์ฯ รวบรวมผลการวิเคราะห์ไว้ให้ดูฟรีเข้าดูได้ในเว็บไซต์ www.saa-thai.org ในหัวข้อ SAA Consensus
ตัวอย่างตารางล่าสุดเฉพาะหุ้นใน SET50 ค่าเฉลี่ยผลการวิเคราะห์สรุปได้ว่าหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่า เรียงจากสูงไปต่ำ 5 อับดับแรก เป็นไปตามตารางNo. | ชื่อหุ้น | Market Capital (BlnBht) | EPS(Baht) | P/E12F (X) | Div12F (%) | Target Price (Baht) | Market Price Baht) | Upside (%) | ||
11A | 12F | 13F | ||||||||
1 | PTT | 943 | 36.91 | 37.95 | 40.77 | 8.7 | 4.06 | 403 | 330 | 22.1 |
2 | DTAC | 205 | 4.99 | 4.83 | 5.51 | 18 | 5.54 | 104 | 86.75 | 19.3 |
3 | KTB | 285 | 1.52 | 1.99 | 2.22 | 10.3 | 3.66 | 23.69 | 20.4 | 16.1 |
4 | BBL | 377 | 14.32 | 17.27 | 19.26 | 11.4 | 3.39 | 228 | 197.5 | 15.2 |
5 | TCAP | 50 | 3.91 | 4.07 | 6.3 | 9.5 | 3.35 | 44.6 | 38.75 | 15.1 |
[Trackback URL for this entry]
ผมไม่หวั่นไหวครับ เพราะผมวิเคราะห์เองกับมือ ไม่ได้เก็งกำไร+เงินที่ลงทุนเป็นเงินเย็น ผมไม่สนใจครับ หากลงอีกผมว่าเป็นโอกาสครับ
ตารางเก่ามากเลยครับ ตอนนี้ขนาด KTB ร่วงมาหนักๆยังเกิด Target Price ไปเยอะเลยนะ
ตัวอย่างตารางดึงมาจากในเว็บครับ และขอบคุณที่แจ้งมาครับ ตารางหุ้นในSET50ที่อยู่ในเว็บไซต์ ข้อมูลไม่ได้updateจริงๆ ผมแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปแล้วครับ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบโปรแกรมการดึงข้อมูลก่อนนะครับว่าเกิดจากอะไร
อย่างไรก็ตามลองเข้าไปดูหุ้นรายตัว เช่น KTB ตารางรายตัว ข้อมูลupdateปกติครับ คุณผู้อ่านสามารถดูคอลัมน์ทางขวาว่าส่งมาวันไหนครับ
ต้องขอโทษในข้อผิดพลาดด้วยครับ
ผมว่า ช่วงนี้ เป็นช่วง ช๊อปปิ้งของถูก เลยล่ะครับ