บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [THG]

บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร

บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [THG]
ชื่อ: นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์
ตำแหน่ง: ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

พฤษภาคม 2565

1. คุณมองเห็นโอกาสอะไรจากวิกฤติโควิค-19 และทางกลุ่มธนบุรี เฮลท์แคร์ มีการปรับตัวตั้งรับสถานการณ์นี้อย่างไร

มันเป็นวิกฤติ แต่วิกฤติก็คือบททดสอบ อย่างที่หลายท่านได้เห็นว่าทาง THG ก็เหนื่อยมาก ทำงานปีที่แล้วทั้งปี เหมือนทำงาน 10 ปีเลย พนักงาน 6-7 พันชีวิต ทำงานเต็มที่ทั้งวันทั้งคืน และผลก็เป็นที่น่าพอใจ เพราะเราก็ช่วยประชาชนได้เป็นแสนๆคน แค่เฉพาะการฉีดวัคซีนนี่ก็หลายแสนคน แล้วก็การรักษาพยาบาลอีก โรงพยาบาลสนาม เราทำไปไม่ต่ำกว่า 4-5 พันเตียงในช่วงเดลต้าเวฟ โอไมครอนนี่ก็ยังมีอยู่นะครับ ปัจจุบันนี้ก็ยังแอคทีฟอยู่นะครับ หลังสงกรานต์นี้ก็อาจจะมีจำนวนเคสเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่ก็ต้องทำ เพราะนี่คือหน้าที่เรา อาชีพเราคือการรักษาพยาบาลและการทำให้คนไทยปลอดภัย ปลอดโรค

2. Key success ที่ทำให้ผลประกอบการของกลุ่มธนบุรี เฮลท์แคร์ turn around กลับมาในปี 2021?

สำหรับคำว่า Key success เราก็เป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่เข้าไปช่วยภาครัฐ และภาคประชาสังคมทำเรื่องโควิดนะครับ ดังนั้น Key success ก็คือ หัวใจที่อยากจะเข้าไปจัดการกับตัวโรคภัยครั้งนี้ ต่อมาก็คือ บุคลากร อันนี้ต้องขอบคุณเลยนะครับ ส่วนใหญ่เป็นแพทย์พยาบาลรุ่นใหม่ๆ น้อง ๆสู้แหลก เหมือนฮีโร่ชุดขาวที่เข้าไปช่วยคน ซึ่งผลพลอยได้ในเชิงผลประกอบการ ปีที่แล้ว เราทำเยอะ เราก็ได้เยอะเป็นธรรมดา มันก็จะสะท้อนเลยว่า โรงพยาบาลไหนที่ทำเรื่องรักษาพยาบาลที่เกี่ยวกับโควิดก็จะได้ผลประกอบการที่ดี แต่ใครที่ไม่ทำก็อาจจะขาดทุน เพราะจริงๆคนธรรมดา ต้องบอกว่าป่วยน้อยลง ไข้หวัด ท้องเสีย หายไปเลย เพราะว่าทุกคนไฮยีนดีมาก ใส่หน้ากากทำให้แทบไม่เป็นหวัดเลย ปีที่แล้วทั้งปี ผมไม่เป็นหวัดเลย แต่สำหรับโรงพยาบาลที่มีการรักษาประเภท Tertiary care เช่น พวกผ่ามะเร็ง ผ่าสมอง ผ่าหัวใจ เหล่านี้ยังมีอยู่ เพราะคนยังป่วยด้วยโรคร้ายแรงเหมือนเดิม ไม่เกี่ยวกับโควิด กลุ่มนี้ยังป่วยเหมือนเดิม

3. เป้าหมายสำหรับปี 2022

สำหรับปีนี้ ภาพของครึ่งปีแรก หากดูสถานการณ์ ก็คงคล้ายปีที่แล้ว เพราะยังมีโอไมครอนอยู่ ยังไงคนก็เจ็บป่วย คนก็ยังระวัง ยังไงภาพก็คงจะยังเหมือนช่วงไตรมาส 2-3 ของปีที่แล้ว ขณะที่ไตรมาส 3 ปีนี้ เรื่องโควิดจะมีตัวใหม่มาอีกไหม ไม่มีใครตอบได้ สมมุติถ้าไม่มีแล้วค่อยๆเฟดลงไป ก็จะเป็นเรื่องโรคอื่นๆมาแทน ซึ่งเราก็ต้องปรับตัวว่าต่อไปนี้ โรคทั่วๆไปอย่างไข้หวัด ท้องเสีย ก็คงยังไม่มาเพราะคนยังไฮยีนดีมากๆ ส่วนกลุ่มโรคร้ายแรง ผ่าตัดสมอง โรคหัวใจ ยังไงก็ยังมีอยู่ แต่ความท้าทายก็คือ กำลังซื้อที่หายไป อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัวว่าจะอยู่ยังไง

4. กลุ่มธนบุรี เฮลท์แคร์ มีการปรับใช้นวัตกรรมใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างไร

เนื่องจากมันเป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีระดับโกลบอลพอดี จาก Web 2 เป็น Web 3 เช่น เรื่อง Telemedicine เรื่องการส่งยาที่บ้าน ทุกอย่างมันจะผสมผสานกันหมด ระหว่างตัว Healthcare technology และพฤติกรรมของมนุษย์ ใครใช้ไม่เป็น ผมก็นั่งคิดโมเดล ว่าที่นี่ เราจะประยุกต์ให้คนที่ใช้เทคโนโลยีคือ Gen Y แต่ตัวคนไข้เป็น Elderly มันก็จะนำมาซึ่งการผสมผสานระหว่าง Generation และ Technology ดังนั้น Gen Y ไม่ป่วย แต่เขาเป็น Helper ของ Elderly ตอนนี้เราก็เริ่มพัฒนาตัว Digital platform คาดว่าอีก 1-2 เดือนนี้เราจะเริ่มlaunch แพลตฟอร์มที่ทำให้การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ง่ายขึ้น เป็นปีที่น่าสนใจ การเปลี่ยนแปลงจะเยอะ เพราะว่ามันเกิด 2 ขาพร้อมกัน คือฝั่งทรัพยากร คุณหมอ พยาบาลปรับแล้ว ฝั่งคนไข้ก็ปรับ โควิดทำให้ทุกฝ่ายต้องปรับ เพื่อหาจุดลงตัว

5. โครงการต้นแบบ Jin Wellbeing County

จิณณ์ เป็นโครงการต้นแบบที่เราอยากทำให้เป็นมาตรฐานใหม่ของประเทศนะครับ เริ่มคิดตั้งแต่เมื่อ 7-8 ปีก่อน เริ่มสร้างจริงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว สร้างเสร็จเมื่อราวสามปีครึ่งที่แล้ว ก็ค่อยๆมีลูกบ้านเข้ามาอยู่ จะผู้สูงอายุ หรือคนไข้ติดเตียง หากไม่มีคนดูแล หรืออยู่ที่บ้านแล้วดูแลไม่ไหว ก็มาดูแลที่นี่ สำหรับสูงวัยที่อยู่กับเรา ก็จะไม่รู้สึกว่าถูกขังอยู่ในห้องที่จำกัด ไม่ต้องกลัวว่าไปล้มที่ไหนหรือจะอันตราย Landscape ทั้งหมดถูกออกแบบไว้อย่างดี เป็นชมชุนที่อยู่ในเครือข่ายกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล และทุกห้องพักจะมี Alarm ทั้งบริเวณหัวเตียงและในห้องน้ำ เหมือนมาตรฐานโรงพยาบาล เมื่อกระตุกปุ๊บก็จะมีทีมแพทย์พยาบาลวิ่งเข้าไปดูแลทันที ที่สำคัญยังมี Master key ที่คุณหมอแตะแล้วเข้าไปได้เลย ความแตกต่างของโรงพยาบาลกับบ้านที่ชัดที่สุดก็คือ ห้องล็อคได้ กับล็อคไม่ได้ ที่จิณณ์จึงเป็นการผสมผสานระหว่างบ้านกับโรงพยาบาล ดังนั้น คนเข้ามาก็จะมี 2 ทางเลือก ถ้ามีสมบัติเยอะ ไม่อยากให้เข้ามายุ่ง ก็ไม่เป็นไร เหมือนคอนโดปกติ แต่ถ้าหากคุณมองว่าชีวิตสำคัญกว่า ก็เซ็นยินยอมให้เราถือ Master key

6. สิ่งที่คุณมองว่าเป็นความท้าทายสำคัญของกลุ่มธนบุรี เฮลท์แคร์ ในปีนี้

ผมมอง 3 ประเด็นหลัก ข้อหนึ่งก็คือเรื่องเศรษฐกิจ จะทำยังไงในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซื้อทั้งประเทศหายไป Medical tourism จะกลับมาหรือไม่ อาจจะกลับมาแน่ ๆ แต่จะเร็วแค่ไหน ข้อสองก็คือ โควิดยังไงตัวหางของมัน ถ้าดูกราฟ หากเรามองว่าโอไมครอนเป็นพีคสุด มันผ่านมา 2 ปีกับ 4 เดือน โดยปกติตามหลัก Biology มันจะเป็น Bell shape ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้ หรือจะไตรมาสหน้ามันจะหายหรือสูญพันธุ์ไปเลย แต่มันจะค่อยๆเฟดไป อีกสักปีหรือสองปี โรคระบาดจึงเป็นความท้าทายอีกเรื่องหนึ่ง และพฤติกรรมคนจะเปลี่ยนไป คนจะชินมากขึ้น ข้อสามคือ Multi-Generation และ Technology ซึ่งมันคือช่วงเปลี่ยนจาก Web 2 ที่เราใช้กันมา 15 ปี เป็น Web 3 เรียกว่า Scarcity of digitization เริ่มมี NFT เริ่มมีอะไร ซึ่งภาพตรงนี้จะเหมาะเจาะพอดีกับเฮลท์แคร์ในระดับหนึ่ง เพราะว่า Scarcity of digitization มันทำให้เกิดความ Unique เพราะผลิตภัณฑ์เฮลท์แคร์ และการที่คุณหมอตรวจคนไข้เนี่ยมันคือ One-on-one ไม่ใช่ One-on-many ดังนั้น ถ้าเทคโนโลยี Web 3 มันทั้ง Unique และมี Privacy มันจะรักษาความเป็น One-on-one ไว้ได้ เพราะฉะนั้นจะมีแพลตฟอร์มเฮลท์แคร์ที่อยู่บน Web 3 ได้มากกว่าของ Web 2

ความเชื่อส่วนตัว ผมเชื่อว่า หลัก Scarcity of digitization จะเป็นจุดกำเนิดเฮลท์แคร์ที่สำคัญบน Web 3 ต่อไป และจะนำมาซึ่งการบริการที่เกิดได้จริงๆ ข้อมูลจะมีความเป็น Individual มากขึ้น นอกจากนี้ ยังรวมถึงเรื่อง Safety of practice วิธีการปฏิบัติทางการแพทย์จะปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งสำหรับแพทย์พยาบาลและผู้ป่วย และที่สำคัญ Trust จะเกิดมากขึ้นบน Web 3

7. Core value ที่คุณและบุคลากรยึดเป็นหลักในการทำงาน

Quality ครับ ถือเป็นหลักการสำคัญของ THG เลย Quality และ Standard ต้องมาก่อน แล้วก็ base on ethics ต้องยึดตรงนี้ไว้ และในที่สุดผลตอบแทนทางธุรกิจจะตามมาเอง เราเรียกว่า เฮลท์แคร์ก็เหมือนการปลูกไม้ยืนต้น เรากำลังปลูกต้นไม้ที่อายุเป็นร้อย ๆปี บางต้นอาจจะดูช้าหน่อย ไม่เป็นไร เรามองตรงนี้เป็น Core value ส่วน Ambiance อื่นๆที่มันรายรอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Aging society เรื่อง Digital platform หรือผลิตภัณฑ์กัญชง กัญชา หรือเรื่อง Wellness เหล่านี้ก็เป็นตัวเสริมเข้ามา แต่ท้ายที่สุดแล้ว แกนหลักก็คือ แกนการรักษาพยาบาล ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัวที่ค้ำยันทุกอย่างไว้