Thursday, 3 February 2022

ลงทุนหุ้นโลกผ่าน Depositary receipt (DR)

« ลงทุนตาม Megatrend ด้วย ETF | Main | รู้จักกับ Depositary Receipt (DR)  »

กรุงเทพธุรกิจ : Future World
รินใจ ชาครพิพัฒน์
กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย)

ลงทุนหุ้นโลกผ่าน Depositary receipt ( DR )

       ในครั้งก่อนหน้า ได้กล่าวถึงช่องทางการลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทยด้วยกองทุน ETF รวมถึงความน่าสนใจของกองทุน ETF ที่เป็นแนวการลงทุนตามเทรนด์ใหม่ของโลกในอุตสาหกรรมที่มีความเติบโตสูง เช่น อุตสาหกรรมเกมส์ ไปแล้ว ในครั้งนี้ จึงอยากจะขอแนะนำ ตราสารอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องมือลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้และมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งก็คือ ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ DR ( Depositary Receipts )

       DR เป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยเหมือนหุ้น โดยผู้ออก DR นั้น จะเป็นธนาคารพาณิชย์ หรือ บริษัทหลักทรัพย์ ก็ได้ โดยในการออก DR ผู้ออกอาจออก DR ที่อ้างอิงกับหุ้นหรือกองทุน ETF ในต่างประเทศ โดยไปซื้อสินทรัพย์ต่างประเทศดังกล่าวมาฝากไว้กับผู้เก็บรักษาหลักทรัพย์ จากนั้น ก็ออก DR มาขายให้กับผู้ลงทุนไทย และนำ DR เข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น จะเห็นได้ว่า DR นั้นเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศ ที่สะดวก และได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เสมือนกับการไปลงทุนในต่างประเทศ โดยที่ผู้ลงทุนไม่ต้องมีความยุ่งยาก หรือต้องไปศึกษากระบวนการลงทุนต่างประเทศด้วยตนเอง แต่ซื้อขายด้วยบัญชีหุ้นไทยและซื้อขายชำระราคาเป็นเงินบาท

       การลงทุนใน DR นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ในต่างประเทศมีการซื้อขาย DR กันอย่างแพร่หลายมานานแล้ว และมีชื่อเรียกเฉพาะในแต่ละภูมิภาค เช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกา จะเรียกว่า American Depositary Receipts (ADR) ซึ่งเป็น DR ที่อ้างอิงกับหุ้นต่างประเทศ โดยมีหุ้นอ้างอิงที่ผู้ลงทุนคุ้นเคย เช่น Alibaba , JD.com หรือบริษัทยาชื่อดัง อย่างเช่น BioNTech หรือ AstraZeneca ซึ่ง ADR นับเป็นทางหนึ่งในการที่จะทำให้ช่วยให้ผู้ลงทุนในตลาดสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงการลงทุนหุ้นต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ซึ่งมีขั้นตอนในการลงทุนโดยตรงค่อนข้างยากได้อย่างสะดวก ทั้งนี้ มีการประเมินว่าราว 20% ของการซื้อขายหุ้นทั้งหมดในประเทศสหรัฐฯ เป็นการลงทุนผ่าน ADR เลยทีเดียว

       สำหรับตลาดไทยนั้น เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นการพัฒนา DR โดยมี DR ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็น DR ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง และอ้างอิงกองทุน ETF ดัชนี VN30 ที่ประกอบไปด้วยหุ้นชั้นนำ 30 ตัวใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ซึ่งนับเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงตลาดหุ้นเวียดนามที่มีอัตราการเติบโตสูงได้โดยสะดวก และไม่ต้องยุ่งยากกับการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อไปลงทุนในเวียตนามและไม่ต้องมาศึกษากฏเกณฑ์การซื้อขายหุ้นในเวียตนาม แต่ซื้อขายเป็นเงินบาทเหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และสามารถซื้อขายตลอดวันโดยไม่มีพักกลางวัน อีกทั้งยังมี Market Maker ที่ทำหน้าที่เสริมสภาพคล่อง ช่วยสร้างความมั่นใจในการซื้อขายให้กับผู้ลงทุนด้วย ปัจจุบัน DR ที่อ้างอิงกับ ETF-VN30 ดังกล่าวมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดตลาดราว 7.33 พันล้านบาทและให้ผลตอบแทนประมาณ 56% ในปี 2021

       อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 นี้ คาดว่าจะมีผู้ออก DR เพิ่มอีกหลายราย และนอกจาก DR ที่อ้างอิงกับกองทุน ETF แล้ว คาดว่าจะมี DR ที่อ้างอิงกับหุ้นต่างประเทศรายตัวด้วย ซึ่งก็จะเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้ลงทุนนอกเหนือจากการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศโดยตรงกับโบรกเกอร์ ซึ่งจะช่วยลดข้อจำกัดของการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งในเรื่องเงินลงทุนขั้นต่ำ รวมถึงค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูง ด้วยการลงทุนใน DR ใช้เงินทุนไม่มากและมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายเหมือนหุ้นไทย นอกจากนี้ ในกรณีที่ หุ้นอ้างอิงมีการจ่ายสิทธิประโยชน์ ผู้ออก DR ก็จะเป็นผู้แจ้งข่าวสารให้กับผู้ลงทุน รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์กับผู้ถือ DR ตามที่กำหนดไว้ในสัญญารับฝาก DR

       ล่าสุด ธนาคารกรุงไทยได้เตรียมการเสนอขาย DR ที่อ้างอิงกับหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) และเป็นที่คุ้นเคยของผู้ลงไทยไทย เช่น หุ้น “Alibaba” และ “Tencent” ที่มีสภาพคล่องสูง ด้วยมูลค่าการซื้อขายติด 5 อันดับแรกของ HKEX ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก www.hangseng.com) Alibaba นั้น เป็นบริษัทจีนที่ประกอบธุรกิจหลายประเภทรวมกันทั้งอีคอมเมิร์ซ ค้าปลีก อินเทอร์เน็ต เอไอและเทคโนโลยีข้ามชาติของจีน โดยบริษัทให้บริการทั้งแบบ ขายแบบลูกค้าต่อลูกค้า ธุรกิจต่อลูกค้า และธุรกิจต่อธุรกิจผ่านเว็บพอร์ทัล ตลอดจนบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ เสิร์จเอนจินซื้อสินค้า และบริการคอมพิวเตอร์แบบคลาวด์ (https://th.wikipedia.org) บริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินการธุรกิจหลากประเภททั่วโลกในหลายส่วน และฟอร์จูนออกชื่อว่าเป็นบริษัทที่ได้รับความชื่นชมมากที่สุดในโลกบริษัทหนึ่ง ส่วน Tencent นั้นเป็นบริษัทบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของจีน ที่ทำธุรกิจมากมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีแอปพลิเคชั่นทางโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Social Media, E-commerce, Search, Entertainment, Payment Platform และ Game ตัวอย่างแอปในเครือธุรกิจของ Tencent ที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี เช่น WeChat, WeTv, และ QQ เป็นต้น

       ผู้ที่สนใจในหุ้น Alibaba หรือ Tencent จึงอาจพิจารณาใช้ DR ที่อ้างอิงหุ้นดังกล่าวเป็นทางเลือกได้เมื่อมีการเปิดให้ซื้อขาย โดยคาดว่าจะเป็นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ นอกเหนือจากหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำในตลาด HKEX แล้ว ในอนาคตคาดว่าจะมีผู้ออก DR ที่อ้างอิงกับหุ้นและ ETF อื่น ๆ เพิ่มเติมอันจะช่วยให้ผู้ลงทุนไทยมีทางเลือกที่หลากหลายและเพิ่มโอกาสในการหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและความรู้เกี่ยวกับ DR สามารถติดตามได้ที่ www.setinvestnow.com/th/dr หรือเว็บไซต์ของผู้เสนอขาย DR แต่ละราย

Posted by rinjai at 5:50 PM in กรุงเทพธุรกิจ

 

[Trackback URL for this entry]

Your comment:

(not displayed)
Code:
 
 
 

Live Comment Preview:

 
« February »
SunMonTueWedThuFriSat
  12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728