Wednesday, 21 December 2016
แม้เศรษฐกิจผันผวนหุ้นยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
« ลงทุนอย่างไรให้ได้เงินล้าน ก่อนเกษียณ | Main | LTF ครบกำหนดแล้ว ขายเลยดีไหม??? »แม้เศรษฐกิจผันผวนหุ้นยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินต่างๆ ทั้งค่าเงิน ตราสารหนี้ ตราสารทุน รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ นั้นเป็นที่คาดหวังจากตลาดว่าจะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากมาตรการการคลังมากกว่า โดยเบื้องต้นจะมีการดำเนินนโยบายลดภาษีและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม เราคาดว่านโยบายต่างๆ จะมีความชัดเจนมากขึ้น ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีหน้าเนื่องจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเริ่มปฏิบัตงานจริงๆที่ทำเนียบขาว ณ วันที่ 20 มกราคม 2560 จึงคาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นหลัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคนต่างด้าว หรือนโยบายด้านการค้าโลก
สำหรับด้านการลงทุน ดูเหมือนว่าความน่าสนใจของเม็ดเงินจะถูกดึงไปอยู่ที่กลุ่มตลาดพัฒนาแล้วมากกว่ากลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมถึงประเทศไทยด้วย จากที่ตลาดคาดการณ์ถึงผลกระทบของเงินเฟ้อและการก่อหนี้ใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นกับสหรัฐฯ ทำให้ส่งผลกระทบต่อแรงขายที่มากขึ้นในตลาดพันธบัตรนอกเหนือจากปัจจัยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในรอบการประชุมเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งตลาดได้คาดถึงปัจจัยนี้ไว้บ้างแล้ว ตลาดหุ้นมีความผันผวนมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่เกิดแรงขายมาก หลังจากค่าเงินดอลล่าร์มีการแข็งค่าขึ้นเปรียบเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ซึ่งบีบให้นักลงทุนต่างประเทศทำการขายสุทธิ เพื่อรักษากำไรส่วนต่าง และเงินบางส่วนอาจกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วโดยเฉพาะสหรัฐฯ ด้านทองคำและน้ำมันได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่าขึ้นและไร้ปัจจัยกระตุ้นใหม่ โดยน้ำมันอาจต้องรอการประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่จะประชุมกันในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน
การลงทุนในอนาคตข้างหน้า มองว่ากลุ่มตราสารหนี้ยังมีความน่าสนใจน้อยกว่าตราสารทุน ยิ่งสถานการณ์ปัจจุบันด้วยแล้ว การปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะมีโอกาสน้อยลงที่จะทำจุดต่ำสุดใหม่ได้ อัตราผลตอบแทนจะเน้นแกว่งตัวทางขึ้นมากกว่า ซึ่งส่งผลลบต่อราคาพันธบัตรโดยรวม ตลาดหุ้นและการลงทุนทางเลือกอย่างทองคำ ดูจะมีโอกาสมากกว่าสำหรับการลงทุนในช่วงถัดๆไป โดยเฉพาะเมื่อตลาดกำลังคาดถึง “เงินเฟ้อ” ในระยะสั้นแล้วตลาดหุ้นของกลุ่มพัฒนาแล้วจะดูดีกว่า แต่เมื่อตลาดมีความสงบมากขึ้น ตลาดหุ้นทั้งโลกน่าจะได้รับผลดีจากการหาผลตอบแทนเพื่อชดเชยเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นเช่นกัน อย่างที่เราทราบกัน การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ อย่างเช่น ทองคำ สามารถช่วยลดความผันผวนหรือเพิ่มผลตอบแทนได้ด้วยในบางช่วงเวลา ทองคำ มีลักษณะเฉพาะตัวหลายแบบ ทั้งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ เพราะฉะนั้นการพิจารณาการลงทุนในทองคำ โดยเฉพาะเมื่อราคามีการอ่อนตัวแบบนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีและเหมาะกับการลงทุนในระยะยาว
น้ำหนักการลงทุนยังเน้นการลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 50% ตลาดตราสารหนี้ 32% สินทรัพย์ทางเลือก 13% และเงินสด 5%โดยนักลงทุนสามารถเลือกถือเงินสดหรือตลาดเงินมากขึ้นได้สำหรับการสับเปลี่ยนการลงทุน เพื่อหลบหลีกจากผลกระทบของตราสารหนี้ระยะยาว สำหรับตลาดหุ้นแม้ว่าเรายังมีน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยมากกว่าที่อื่น แต่ตัวเลือกอย่างเช่น การลงทุนในสหรัฐฯ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่อาจได้รับผลดีจาก Trump Effect อย่างเช่น กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มเหมืองแร่ หรือกลุ่มธนาคาร เพื่อสะท้อนกับนโยบายที่อาจเปลี่ยนไป ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
[Trackback URL for this entry]