Thursday, 1 December 2016
ลงทุนอย่างไรให้ได้เงินล้าน ก่อนเกษียณ
« ลงทุนหุ้นผ่านกองทุนรวมหุ้นดีอย่างไร | Main | แม้เศรษฐกิจผันผวนหุ้นยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ »ลงทุนอย่างไรให้ได้เงินล้าน ก่อนเกษียณ
โดย บลจ. แมนูไลฟ์ ประเทศไทย)
เคยคิดกันไหมครับ เมื่อเราเกษียณอายุแล้ว เราจะใช้ชีวิตกันแบบไหน ท่านผู้อ่านบางท่านอาจมีการวางแผนมาเป็นอย่างดีเพราะมองว่าการเตรียมพร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ไม่ควรมองข้าม แต่ยังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่คิดถึงชีวิตหลังการเกษียณว่าจะเป็นอย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร หลังจากที่รายได้จากงานประจำที่ทำมาค่อนชีวิตนั้นหมดลง แต่ชีวิตเรายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้หยุดตามรายได้เหล่านั้น แล้วค่าใช้จ่ายของชีวิตต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร อีกทั้งปัญหาสุขภาพที่กำลังจะตามมาอีกในไม่ช้า ทุกๆ อย่างมันคือค่าใช้จ่ายที่ไม่มีวันจบสิ้นทั้งนั้นครับ
ถ้าอย่างนั้นแล้วเราต้องออมเงินอย่างไรจึงจะมีเงินล้านได้ หรือหากถึงวัยเกษียณแล้วเราควรจะมีเงินออมกี่ล้านเพื่อให้การดำรงชีวิตในยามเกษียณไม่เป็นภาระต่อลูกหลาน อันดับแรกต้องสำรวจสัดส่วนเงินได้ต่อค่าใช้จ่ายเสียก่อน ถ้าหากเรามีเงินได้มากกว่าค่าใช้จ่ายนั่นคือมีเหลือพอจะเก็บได้ อันดับต่อไปผมแนะนำว่าเราควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้น เช่น ต้องออมให้ได้ 1 ล้านภายใน 10 ปี หรือ 15 ปี ในที่นี้ยกตัวอย่างใน 10 ปีและขอยังไม่กล่าวถึงเงินเฟ้อในอนาคตเพื่อให้มองเห็นตัวเลขเริ่มต้นแบบง่ายๆ ก่อนนะครับ) สมมติ นายแฮปปี้ อายุ 22 ปี มีเงินเดือน 15,000 บาท ต้องการออมเงิน ให้ได้ 1 ล้านบาทใน 10 ปี ความตั้งใจคืออยากออมเดือนละ 5,000 บาท) หากนายแฮปปี้ลงทุนที่ให้ผลตอบแทน 3% ต่อปี นายแฮปปี้ต้องออมเงินถึงเดือนละ 7,060 บาท เกินความตั้งใจของนายแฮปปี้ไป 2,060 บาท) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเงินออมประมาณ 47% ของเงินเดือน ส่วนที่เหลือจากการออมอีก 7,000 บาท คือส่วนที่เราสามารถนำมาจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันได้ (ต้องประหยัดพอสมควรหากจะทำให้ได้ตามเป้า) แต่หากนายแฮปปี้ออมเงินโดยหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นเป็น 5% ต่อปี นายแฮปปี้ก็จะออมเงินลดลงเหลือเพียงประมาณ 6,310 บาทต่อเดือน และหากนายแฮปปี้ต้องการออมเพียงเดือนละ 5,000 บาทตามที่ตั้งใจไว้ นายแฮปปี้ต้องลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ ซึ่งผมก็ลองคำนวณคร่าวๆ ไว้แล้ว โดยนายแฮปปี้ต้องลงทุนในสินทรัพย์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 9% ต่อปี และเมื่อครบ 10 ปี นายแฮปปี้ก็จะมีเงินออมครบ 1 ล้านพอดีครับ
ผมขอนำตัวอย่างการกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ จากหนังสือ “ให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวมหุ้น” โดยความร่วมมือจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน โดยแสดงผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี ดังตารางด้านล่างนี้
ประเภทสินทรัพย์ | หุ้นไทย SET 50 TRI) | เงินฝากประจำ 1 ปี เฉลี่ย 5 ธนาคาร) | พันธบัตรรัฐบาล Govt bond TRI) | ทองคำ เงินบาท) |
ผลตอบแทนเฉลี่ย | 16.79 | 2.21 | 5.08 | 11.23 |
หมายเหตุ : ระยะเวลาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 – มิ.ย. 2559
จากตารางจะเห็นได้ว่าการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนที่ดีคือการลงทุนในหุ้น อย่างไรก็ดี หุ้นยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และมีความผันผวนสูง หากนายแฮปปี้ไม่มีประสบการณ์การลงทุนตรงในหุ้น หรือไม่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้สูง ดังนั้น การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับนายแฮปปี้เนื่องจากมีมืออาชีพมาช่วยบริหารเงินลงทุนให้
ดังนั้น จากตัวอย่างที่ผมกล่าวมาทั้งหมด หากจะหาผลตอบแทนให้ได้ประมาณ 9% ต่อปี เพื่อให้มีเงินเก็บ 1 ล้านบาทภายใน 10 ปี ตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับนายแฮปปี้นั่นคือการเลือกลงทุนในกองทุนรวมหุ้นครับ ซึ่งอีก 10 ปีข้างหน้าเมื่อนายแฮปปี้มีเงินออมครบ 1 ล้านแล้ว นายแฮปปี้จะมีอายุเพียง 32 ปีเท่านั้น และเงิน 1 ล้านบาทของนายแฮปปี้ก็ยังสามารถลงทุนต่อไปเพื่อให้ได้ผลตอบแทนงอกเงยขึ้นไปได้อีกจนกว่าจะเกษียณ อย่างไรก็ดี ผมมองว่าเงินเดือนนายแฮปปี้คงไม่ได้หยุดอยู่ที่ 15,000 บาท อย่างแน่นอน ดังนั้น การออมเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของเงินได้ เช่น เงินเดือน 15,000 บาท ออมไว้ 5,000 บาท คิดเป็น 1 ใน 3 ของรายรับ ในอนาคตถ้าเงินเดือนมากขึ้น เราก็ออมมากขึ้นก็ยิ่งจะทำให้นายแฮปปี้บรรลุเป้าหมายเงินล้านได้เร็วขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง เห็นมั้ยครับว่า การออมเพื่อให้มีเงินล้านภายใน 10 ปีนั้นไม่ได้ยากอย่างที่เราคิด หากท่านเริ่มต้นวางแผนและออมเงินได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้ท่านบรรลุเป้าหมายการออมเงินได้เร็วมากขึ้นเท่านั้นครับ ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังมองหาเป้าหมายให้เงินออมของท่านเองนะครับ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
[Trackback URL for this entry]